Erotic 19
“นาย...
ถอดเสื้อทำไม”
จียงเอ่ยถามเสียงเริ่มสั่น
สองแขนที่ใช่กอดออกคลายออกเป็นชันไว้ข้างกายคล้ายกับกำลังจะกระถดหนีออกจากรังสีผู้ล่าตรงหน้า
“ฉันถามไม่ได้ยินหรือไงเล่า!”
รู้ว่าสู้ไม่ได้ก็ยังจะดันทุรังใช้เสียงข่ม
แต่ตัวตนกำลังเขยิบหนีออกไปทุกทีจนแผ่นหลังชนกับพนักแขนอีกฝั่ง
นัยน์ตาเรียวเหลือบมองด้านหลังนิดหน่อยหาทางรอดก่อนจะหันกลับมามองคนที่กำลังเดินยิ้มไม่น่าไว้ใจ
หากแต่จะหนียังไงก็คงหนีไม่ทันในเมื่อผู้ล่ามาประชิดตัว
“อ๊ะ!” เสียงเล็กอุทานขณะที่มือบางถูกรวบไว้อย่างเร็ว
“จะทำอะไรซึงฮยอน!”
“ดินเนอร์กับที่รักไงครับ...”
“อุ๊บ!”
ไม่ทันได้ปริปากท้วงใดๆ
กลีบปากบางสีชมพูสดถูกครอบครองด้วยริมฝีปากหยักด้วยความรวดเร็ว
จียงหลับตาปี๋ด้วยความตกใจกับการกระทำอุกอาจของร่างสูง เรียวลิ้นอุ่นไล่เลียกลีบปากสีสดก่อนจะรุกล้ำเข้าสำรวจภายในโพรงปากชื้นของจียง
ฟันคมขบลงบนริมฝีปากสวยเพียงนิดอย่างหมั่นเขี้ยวกับความน่ารัก
นัยน์ตาหวานพริ้มหลับรับรสจูบดูดดื่มเพลิดเพลินไปกับการหว่านล้อมด้วยร่างกายจากซึงฮยอน
ข้อมือบางถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระขณะที่สองร่างกำลังพัวพันแม้จะไม่ได้เปลือยเปล่าแต่ความอุ่นร้อนของผิวเนื้อก็ช่วยให้ซาบซ่านจนแทบกระอักความสำราญ
มือบางเผลอไผลไล่สัมผัสไปตามลำคอแกร่งของอีกคน
เรียวนิ้วสวยลากไปตามแนวหลังใบหูของคนตรงหน้าเรียกความร้อนระอุให้กับร่างกายของซึงฮยอนได้เป็นทวีคูณก่อนที่ฝ่ามือบางจะไปหยุดอยู่ตรงท้ายทอยของเขาทั้งสองข้างราวกับกำลังหาที่พึ่งพิง
ซึงฮยอนถอนจูบออกพลางมองใบหน้าหวานที่กำลังหลับพริ้ม
เปลือกตาคู่สวยฉ่ำปรือลืมตามองคนตรงหน้า
ไม่รู้ว่าเจ้าของดวงตาคู่สวยนี้จะรู้หรือไม่ว่าตอนนี้ตัวเองเซ็กซี่มากขนาดไหนหากแต่ซึงฮยอนรู้ดีเพราะเขาแทบอยากจะกระชากเสื้อผ้าของร่างบางออกไปให้พ้น
...อยากสัมผัสผิวเนื้อเนียนด้วยริมฝีปาก
อยากจะแตะต้องทุกอย่างด้วยสองมือของตน
ไม่รอช้ามือหนาก็จัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ของร่างบางออกโดยที่อีกฝ่ายไม่ขัดขืนแม้แต่น้อย
ถึงจะเหนื่อยมาทั้งวันแต่ซึงฮยอนก็ขอยอมเหนื่อยอีกสักหน่อยจะเป็นไรไปหากแลกกับความสุขทางกายและใจ
ใช่ว่าจะเป็นเขาคนเดียวเสียที่ไหน ร่างบางเองก็เช่นกัน
ใช้เวลาไม่นานนักสองร่างก็เปลือยเปล่าไร้ซึ่งพันธนาการมาปิดกัน
เนื้อแนบเนื้อช่วยให้อบอุ่นยิ่งกว่าเตาผิงที่ไฟลุกอยู่ในขณะนี้เสียด้วยซ้ำ
ฝ่ามือหนาประคองท้ายทอยของคนตัวเล็กให้นอนลงบนโซฟาตัวสวยอย่างเบามือราวกับคนใต้ร่างเป็นแก้วราคาแพงที่แสนจะบอบบาง
ซึงฮยอนอยากทะนุถนอมคนๆ นี้ไว้ด้วยมือของเขาอย่างที่เคยสัญญากับตัวเอง
สองสายตาสอดประสานบ่งบอกว่าต้องการกันและกัน
“นายจะไม่ปิดบังทุกอย่างกับฉันใช่ไหม...”
คนตัวเล็กเอ่ยถามย้ำเพื่อความมั่นใจ
“ผมไม่มีอะไรปิดบังคุณอีกแล้ว”
ร่างสูงเอ่ยพลางยิ้มละมุน
ริมฝีปากหยักกดจูบลงบนหน้าผากมนเบาๆ
สองสามครั้งก่อนจะไล่ลงมาตรงขมับด้านซ้ายอีกหนึ่งที
ละลงมาเรื่อยจนถึงพวงแก้มขึ้นสีชมพูระเรื่อเรียกรอยยิ้มบางๆ ให้กับจียง
หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นทุกขณะด้วยความที่ยังไม่ชินกับการสัมผัสจากคนตรงหน้า
“ฉันรักนายแล้วนะ ซึงฮยอน...”
เพียงคำพูดสั้นๆ
แต่มันกลับทำให้ท่านประธานหนุ่มหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
น้อยครั้งนักที่เขาได้จะได้ยินคำนี้จากร่างบางหากเขาไม่ได้เป็นคนเอ่ยถาม รอยยิ้มหวานผุดพราวไม่ต่างจากความแวววาวจากนัยน์ตาสีนิลซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความอัดอั้นตันใจจนยากจะอธิบาย
“ผมรักคุณยิ่งกว่า...”
ซึงฮยอนก้มลงกระซิบชิดริมใบหูบางเบาๆ
พอให้ได้ยิน เรียกรอยยิ้มน้อยๆ ฉาบทาบนใบหน้าหวาน วงแขนเล็กโอบกอดแผ่นหลังกว้าง
ห้องทั้งห้องอบอวลไปด้วยความรัก ความร้อนแรงที่เกิดจากหัวใจทั้งสองดวง
ริมฝีปากบางหยักกดจูบลงบนรำคอระหงสูดดมกลิ่นหอมจากกายบางไปทั่วบริเวณ
ฝ่ามือหนาลากไล้ไปตามแนวเอวคอดไล่ไปจนถึงสะโพกมนก่อนจะบีบมันเบาๆ
ด้วยความหมั่นเขี้ยวขณะที่เรียวปากก็ยังคงทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง
เรียวขาขาวถูกแยกออกจากกันก่อนที่ใบหน้าคมจะค่อยๆ
เคลื่อนลงต่ำเรื่อยๆ ผ่านแผ่นอกบาง
ถึงกระนั้นก็ยังไม่ลืมที่จะหยุดชื่นชมความงามจากธรรมชาติที่ถูกสรรค์สร้างมาให้เขาได้เป็นเจ้าของ
ยอดอกสีชมพูสดถูกครอบครองด้วยริมฝีปากหยัก ลิ้นร้อนชื้นไล้วนโลมเลียจนร่างบางสะดุ้งด้วยความเสียวซ่าน
ชื่นชมยอดตุ่มไตจนพอใจแล้ว
หน้าท้องสวยก็หนีไม่พ้นเช่นกัน
ริมฝีปากร้อนพรมจูบไล่ลงมาจนถึงแอ่งสะดือสวยแลบเลียไล้วนจนจียงต้องแอ่นอกโดยไม่ทันรู้ตัว
สองมือบางเผลอขย้ำเส้นผมสีดำขลับของคนซุกซน
เสียงครางหวานเล็ดรอดให้ได้ยินเป็นระยะดวงตาสีน้ำตาลฉ่ำปรือมองเพดานห้อง
“อืม...”
ใบหน้าหวานเชิดขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงการรุกล้ำจากคนตัวสูง
เรียวลิ้นชื้นรุกรานช่องทางคับแคบด้านล่างอย่างหนักหน่วง
สองขาขาวถูกจับชันขึ้นสูงจนเข่าแทบจะถึงหน้าอกบางหากแต่แม้จะเมื่อยล้าแค่ไหนก็ตามความต้องการในตอนนี้กลับมากกว่าเป็นไหนๆ
เรียวลิ้นร้อนโลมเลียกระตุกรัวจนคนตัวเล็กหอบหายใจถี่กระชั้น
ริมฝีปากสีสวยเผยออ้าโกยอากาศเข้าปอด
ปลายนิ้วทั้งสิบจิกลงบนโซฟาอย่างยากลำบางเพราะมันไม่ได้ยับย่นตามมือจนต้องความหาที่พักพิงใหม่และคงจะหนีไปไหนไม่ได้นอกจากเรือนผมสีนิลของร่างสูงซึ่งตอนนี้กำลังถูกดึงจนแทบจะหลุดออกจากหนังศีรษะ
“อ๊ะ!... ซึงฮยอน... ฉะ
ฉันเหมือนจะตะ ตายเลย...”
เสียงหวานสารภาพออกมาอย่างไม่อายเพราะหากอดทนกับความรู้สึกต่อไปมันจะยิ่งทรมานมากขึ้นเท่านั้น
เขายอมไร้ยางอายเสียดีกว่ายอมทรมานเหมือนร่างกายจะแหลกหัวใจจะขาดอยู่แบบนี้
“รักผมไหมครับ คนดี...”
ซึงฮยอนราวกับจะแกล้งให้อีกคนทรมานเล่น
รอยยิ้มร้ายผุดพราวบนใบหน้าหล่อคมขณะกำลังปรนนิบัติลูกแมวตัวน้อยภายใต้อำนาจให้อยู่หมัด
ซึ่งมันก็ได้ผลเกินคาดเมื่อเสียงหวานยอมเอ่ยตอบตามความต้องการของเขา
“รัก... ระ รัก รักมากด้วย... อืม...”
กรอบตาเรียวปรือปรอยหวานฉ่ำพลางเอ่ยคำรักให้อีกคนได้ชื่นหัวใจ
เอ่ยซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนร่างสูงแทบอยากจะฟัดให้แรงๆ
หากไม่กังวลว่าร่างบอบบางจะบอบช้ำจากน้ำมือเขา
ท่านประธานหนุ่มยอมสละริมฝีปากออกจากปากทางรักอุ่นร้อนไล่ต้อนรสจูบร้อนแรงจากขาอ่อนด้านในขึ้นมาจนถึงริมฝีปากบางสีสวยพลางสอดแทรกปลายนิ้วยาวเข้าไปทดแทนไม่ให้ขาดตอนขณะเดียวกันกลีบปากบางก็ถูกกลืนกินอย่างดูดดื่ม
“ผมจะเข้าไปแล้วนะครับ...”
เสียงทุ้มกระซิบชิดริมใบหู
ไม่ต้องรอให้ได้รับคำอนุญาตใดๆ
ความเป็นชายซึ่งกำลังแข็งขืนสู้มือเขาก็ถูกนำเข้าไปสำรวจโพรงถ้ำที่กำลังรอต้อนรับด้วยความยินดี
“อึก!”
แผ่นอกบางแอ่นรับความคับแน่นซึ่งเขายังไม่ชินกับมันนัก
ขณะเดียวกันวงแขนเรียวถลาเข้าโอบกอดแผ่นหลังแกร่งไว้แน่นพลางจิกเล็บลงไปให้คนตัวใหญ่ได้แสบๆ
คันๆ อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
สองแขนแกร่งประคองกอดแผ่นหลังขาวเนียนของคนใต้ร่างพรมจูบพวงแก้มนิ่มคล้ายกับกำลังปลอบโยนกับสิ่งที่เขาได้ทำลงไปให้ร่างบางได้ผ่อนคลายมากกว่านี้
จังหวะรักอ่อนโยนนุ่มนวลเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความร้อนแรงขึ้นตามระดับความต้องการของทั้งคู่
ไฟจากเตาผิงที่ว่าร้อนนักหนาหาเทียบได้กับความร้อนระอุที่ทั้งสองได้มอบให้กัน
หากจะให้แลกกับเงินหลักเจ็ดหลักแปดในเวลานี้ซึงฮยอนคงเลือกจะไม่รับและจียงเองก็เช่นกัน
...ขอเพียงมีกันและกัน
ไม่ว่าหลักไหนก็ไม่อาจตีราคา
หากจะให้ซึงฮยอนเป็นผู้คุมบังเหียนเพียงคนเดียวผู้จัดการคนสวยก็คงไม่ยอมให้เขาได้ทำแบบนั้นง่ายๆ
จะยอมได้อย่างไรในเมื่อเขาเองก็มีดีไม่แพ้กันซักเท่าไหร่
จียงไม่ใช่คนเก่งอย่างที่คนอื่นๆ
คิดแต่เขาก็ถือว่าไม่น้อยหน้าไปกว่าหญิงสาวคนอื่นที่ซึงฮยอนเคยผ่านมา
ร่างหนาถูกพลิกให้เป็นฝ่ายอยู่ใต้อาณัติของคนตัวเล็กและไม่มีการขัดขืนหากสิ่งนั้นมันเป็นความต้องการของว่าที่เจ้าสาวอย่างจียง
สะโพกอวบอิ่มยกขึ้นลงตามจังหวะที่ควรจะเป็นไปเสียงครวญครางซึ่งมาจากความสุขดังระงมแข่งกับเสียงจิ้งหรีดเรไรภายนอกบ้านแว่วดังกังวานไปทั่วทั้งห้องรับแขก
แสงสีเพลิงจากเตาผิงเป็นแบ็คกราวน์ชั้นเยี่ยมที่ช่วยในการปลุกเร้าอารมณ์
แสงเงาสะท้อนของคนสองคนขยับขึ้นลงบนฝาผนังสีเหลืองนวล
ผ่านไปเพียงไม่ถึงกี่นาทีความอัดอั้นที่เก็บมานานหลายวันก็เป็นอันต้องถูกปลดปล่อย
เสียงหอบหายใจของคนทั้งคู่ประสานกันให้ได้ยินชิดริมใบหูเมื่อร่างบางทิ้งตัวหมอบลงบนแผ่นอกแกร่ง
สองมือของซึงฮยอนลูบบนเรือนผมนุ่มเบาๆ
อย่างทะนุถนอมก่อนจะจูบซ้ำลงบนหน้าผากมนราวกับว่ามันเป็นรางวัลของคนเก่ง
ความคิดเห็น